เกี่ยวกับเรา

เรากำลังปลุกกระแสแห่งความเชื่อในประเทศไทยด้วยการเสริมสร้างผู้นำ เพื่อเข้าถึงทุกภาคส่วน และปลุกคนทั้งชาติให้ตื่นขึ้นเกินกว่า 1%

เรามองเห็นคริสตจักรที่มีชีวิตชีวาและเต็มเปี่ยมไปด้วยความเชื่ออยู่ใจกลางประเทศไทย เสริมสร้างผู้นำที่มีหัวใจรับใช้ สร้างคนรุ่นใหม่ที่รักและติดตามพระเยซูอย่างสุดใจ และเคลื่อนไหวด้วยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพื่อนำข่าวประเสริฐไปสู่ทุกมิติของสังคม จากเมืองสู่หมู่บ้าน จากห้องเรียนสู่ห้องประชุม เราเชื่อว่าพระเจ้ากำลังขยายคริสตจักรของพระองค์ให้เติบโตเกินกว่า 1% และทรงปลุกประเทศไทยผ่านกระแสแห่งความเชื่อ การเป็นผู้นำ และการฟื้นฟู

เราเป็นคริสตจักรไทยที่มีหลากหลายวัฒนธรรม มุ่งมั่นที่จะช่วยให้ผู้คนในประเทศไทยได้พบกับพระเยซู มีชุมชนที่ดี มีจุดมุ่งหมายในชีวิต และสร้างความแตกต่าง

อาจารย์ ฌอน มหาวัณ เป็นศิษยาภิบาลอาวุโสและเป็นผู้ก่อตั้งคริสตจักรวิคทรี เชียงใหม่ เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อ เดือนมิถุนายน ในปี คศ.2021 (พศ.2564) ซึ่งเป็นช่วงที่โควิดระบาดในระลอกสุดท้าย คริสตจักรวิคทรี เริ่มต้นขึ้นจากจำนวนผู้เชื่อเพียงไม่กี่คนเติบโตสู่ชุมชนที่เจริญรุ่งเรือง โดยเชื่อว่าสิ่งที่ดีที่สุดนั้นกำลังจะมาถึงคริสตจักรและเมืองเชียงใหม่ คริสตจักรวิคทรีมีชื่อเสียงในเรื่องของวัฒนธรรมการให้ด้วยใจที่กว้างขวางและด้วยใจที่ยินดี เป็นคริสตจักรที่ให้การต้อนรับผู้คนอย่างเป็นกันเองและอบอุ่น เราอุทิศตัวเพื่อนำคนที่อยู่ห่างไกลพระเยซูได้กลับมาพบพระองค์และรับการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับพระเจ้า

อาจารย์ ฌอน มหาวัณ เติบโตขึ้นในชนบทแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย ท่านมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะพัฒนาผู้นำคริสตจักรและสร้างคริสตจักรเพื่อที่จะประกาศกับคนไทย

อาจารย์ฌอน และลินด์ซี่ ภรรยาของท่าน พร้อมกับลูกสาวอีกสองคน ปัจจุบันอาศัยอยู่ในเมืองเชียงใหม่ ประเทศไทย ซึ่งเป็นเมืองเดียวกันกับสถานที่ตั้งคริสตจักรวิคทรี

ค่านิยมของเรา

สร้างชุมชน

เราคือสถานที่ที่คุณรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง ก่อนที่คุณจะรับเชื่อ เราให้ความสำคัญกับผู้คน ไม่ใช่แค่โปรแกรม ความสัมพันธ์ คือ สิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก เพราะทุกคนสำคัญสำหรับพระเจ้า ไม่มีใครควรใช้ชีวิตตามลำพัง และทุกคนสมควรได้รับที่นั่งบนโต๊ะอาหาร (ถูกยอมรับ) ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ตรงจุดไหนในการเดินทางชีวิตของพวกเขา โรม 15:7 – เพราะฉะนั้นจงต้อนรับกันและกัน เช่นเดียวกับที่พระคริสต์ได้ทรงต้อนรับท่าน เพื่อพระเกียรติของพระเจ้า

การรับใช้

เราไม่ได้แค่มาเข้าร่วม แต่เรามีส่วนร่วม เรารับใช้ เพื่อเพิ่มคุณค่า ไม่ใช่แค่ตอบสนองความต้องการ เราพร้อมที่จะสร้าง อวยพร และแบกรับภาระไปด้วยกัน ถ้ามีอะไรที่ต้องทำ เราก็จะทำ การรับใช้ไม่ได้เป็นแค่สิ่งที่เราทำ แต่มันคือ ตัวตนของเรา มาระโก 10:45 – เพราะว่าบุตรมนุษย์ไม่ได้มาเพื่อรับการปรนนิบัติ แต่มาเพื่อจะปรนนิบัติคนอื่น และให้ชีวิตของท่านเป็นค่าไถ่คนจำนวนมาก”

ใจกว้างขวาง

เรานำด้วยใจที่กว้างขวางอย่างไร้เหตุผล การให้ คือสิ่งที่เราทำ แต่ความใจกว้าง คือตัวตนของเรา เราให้มากกว่าที่ต้องการ เพราะเราเชื่อว่า การให้นั้นเป็นสุขกว่าการได้รับ ไม่ว่าจะเป็นเวลา ความสามารถ หรือทรัพย์สิน เราเริ่มให้ด้วยใจที่อิสระก่อน และให้ด้วยความชื่นชมยินดี เราวางแผนที่จะใช้ชีวิตอย่างใจกว้าง และมั่นคงในการให้ของเรา เพราะพระเจ้าได้ประทานให้เราอย่างอุดมสมบูรณ์ กิจการ 20:35 – ข้าพเจ้าวางแบบอย่างให้ท่านแล้วในทุกเรื่อง เพื่อให้เห็นว่าโดยการตรากตรำงานแบบเดียวกันนี้ เราต้องช่วยพวกที่มีกำลังน้อย และระลึกถึงพระวจนะของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า ตามที่พระองค์ตรัสว่า ‘การให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ’ อิสยาห์ 32:8 – แต่ผู้สูงศักดิ์ก็ทำแต่สิ่งที่สูงส่ง เขาดำรงอยู่ด้วยสิ่งที่สูงส่ง

การให้เกียรติ

เราพูดด้วยการให้เกียรติ และดำเนินชีวิตด้วยการให้เกียรติ การให้เกียรติเริ่มต้นจาก มุมมองของพระเจ้า เราเลือกที่จะมองผู้คนโดยการไม่มองเพียงแค่สิ่งที่พวกเขาเป็นอยู่ แต่มองไปยังสิ่งที่พวกเขาสามารถเป็นได้ในพระคริสต์ เรามีความกระตือรือร้นในการหนุนใจ ไม่หวงคำพูด เราน้อมรับผู้ที่พระเจ้าทรงมอบให้อยู่เหนือเราด้วยความชื่นชมยินดี และดูแลเอาใจใส่ผู้ที่พระองค์ทรงมอบให้อยู่ใต้เราอย่างลึกซึ้ง การให้เกียรติเป็นมากกว่าความรู้สึก มันถูกแสดงออกในการที่เรารับใช้ พูด และการมาร่วม เราให้เกียรติทั้งผู้ที่อยู่สูงกว่า ต่ำกว่า และผู้คนรอบข้าง โรม 12:10 – จงรักกันฉันพี่น้อง จงขวนขวายในการให้เกียรติกันและกัน

ความเชื่อของเรา

คริสตจักรทุกแห่งมีความเชื่อหลักและความเชื่อรองที่ยึดถือปฎิบัติกัน แต่ก็ยังเว้นที่ว่างสำหรับมุมมองที่แตกต่างกันออกไปด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับความเชื่อรองนั้น เป็นความเชื่อที่เรายอมรับข้อแตกต่างของกันได้ เดินไปด้วยกันด้วยความรักและความสามัคคีโดยเป็นน้ำหนึ่งเดียวกัน เพราะเราเห็นด้วยกับหลักความจริงที่สำคัญของหลักคำสอนของคริสเตียน

มาตรฐานของเรา - ข้อพระคัมภีร์

เราเชื่อว่าพระคัมภีร์ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า และเป็นประโยชน์ในการสอน ในการว่ากล่าวตักเตือน แก้ไขสิ่งผิด พระเจ้าได้แต่งตั้งมนุษย์ให้พูด และเขียนในขณะที่พวกเขาได้รับการดลใจโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ บทบัญญัติใหม่ตามที่ได้บันทึกไว้ในภาคพันธสัญญาใหม่ เรายอมรับโดยยึดถือเป็นแนวทางปฎิบัติเพื่อแก้ไขความผิดพลาด (2 ทิโมธี 3:16, 1 เธสะโลนิกา 2:13, 2 เปโตร 1:21)

ความต้องการของเรา - มนุษย์ล้มลงในบาปและได้รับการไถ่

เราเชื่อว่ามนุษย์เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้น; ตามรูปลักษณ์และพระฉายของพระเจ้า แต่โดยการกระทำผิด ของอาดัม จึงเป็นเหตุให้มนุษย์ล้มลงและความบาปจึงเข้ามาในโลก ผลที่ตามมาคือความตาย ดังนั้น มนุษย์จึงตายในฝ่ายวิญญาณและถูกแยกจากพระเจ้า พระเยซูคริสต์พระบุตรของพระเจ้าถูกส่งมาเพื่อถวายชีวิตเป็นเครื่องบูชาลบล้างพระอาชญา และทรงหลั่งโลหิตออกมาเพื่อใช้ไถ่บาป ฟื้นฟูมนุษย์ให้กลับคืนสู่พระเจ้า โดยจัดเตรียมความรอดให้แก่เรา ความรอดเป็นของประทานที่พระเจ้าประทานแก่มนุษย์ ไม่ใช่ด้วยการกระทำดีของเราหรือเพราะธรรมบัญญัติ แต่โดยพระคุณ โดยความเชื่อในพระเยซูคริสต์ เราจึงได้รับความรอด พระเยซูเป็นทางนั้น เป็นความจริงและเป็นชีวิต ไม่มีใครมาถึงพระบิดาได้นอกจากมาทางพระองค์ (โรม 5:14, โรม 3:10, โรม 3:23, 1 ยอห์น 3:8, เอเฟซัส 2:8, ยอห์น 14:6)

ชีวิตนิรันดร์ - บังเกิดโดยพระวิญญาณ

เราเชื่อว่าก้าวแรกของมนุษย์สู่ความรอดนั้น คือการกลับใจอย่างแท้จริง ในการที่จะรอดและรับเอาชีวิตนิรันดร์นั้น พระเยซูตรัสว่าทุกคนต้องบังเกิดใหม่ การบังเกิดใหม่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับมนุษย์ทุกคน และเมื่อเราประสบพบแล้ว ก็ก่อให้เกิดชีวิตนิรันดร์ เพราะพระเจ้าทรงรักโลกจนได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์เพื่อทุกคนที่เชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์ (2 โครินธ์ 7:10, 1 ยอห์น 5:12, ยอห์น 3:3-5, ยอห์น 3:16)

พลังศักดิ์สิทธิ์ - เปี่ยมล้นด้วยพระวิญญาณ

เราเชื่อว่าผู้เชื่อทุกคนต้อง "บังเกิด" โดยพระวิญญาณ และต่อมาภายหลังจะได้รับการ "เติมเต็มด้วย" พระวิญญาณบริสุทธิ์ หรือที่เรียกว่า: การบัพติศมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ การรับพระวิญญาณหรือการเต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณนั้น คือของขวัญจากพระเจ้าตามที่องค์พระเยซูคริสต์ทรงสัญญาไว้แก่ผู้เชื่อทุกคน ซึ่งได้รับโดยความเชื่อ หลังจากที่บังเกิดใหม่ผู้เชื่อก็จะเต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณ ทำให้ผู้เชื่อมีฤทธิ์เดชในการเป็นพยานถึงพระคริสต์ และเป็นจุดเริ่มต้นของการมีชีวิตในชัยชนะที่เหนือธรรมชาติ พระคัมภีร์สอนว่าเราจะได้รับประสบการณ์นี้โดยความเชื่อเท่านั้น ซึ่งจะปรากฎให้เห็นเป็นหลักฐานอยู่บ่อยๆ ด้วยฤทธิ์เดชแห่งพระวิญญาณบริสุทธ์อันเป็นการกระทำที่เหนือธรรมชาติ รวมถึงการพูดภาษาแปลกๆด้วย (มธ. 3:11, ยอห์น 14:16,17, กิจการ 1:8, 2:4,38, 19:1-7, อฟ 5:18)

การประกาศความเชื่อต่อสาธารณชน -โดยรับบัพติสมาในน้ำ

เราเชื่อว่าพระเยซูทรงตรัสสั่ง ให้ผู้เชื่อทุกคนเปิดเผยความเชื่อของตนผ่านการรับบัพติศมาในน้ำ โดยจุ่มตัวลงในน้ำให้มิด การบัพติศมาในน้ำคือการประกาศต่อสาธารณะ เกี่ยวกับการงานของพระเจ้าที่ทำในหัวใจและชีวิตของผู้เชื่อทุกคน นี่เป็นสัญลักษณ์ของการระบุตัวตนของคริสเตียนร่วมกับพระคริสต์ ในการสิ้นพระชนม์ ในการถูกฝัง และในการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ (มัทธิว 28:19, โรม 6:4, โคโลสี 2:12, กิจการ 8:36-39)

ขนมปังของเด็ก - การรักษาอันศักดิ์สิทธิ์

เราเชื่อว่าพระเยซูทรงปรารถนาให้ผู้เชื่อทุกคนที่ดำเนินตามแสงสว่างแห่งพระวจนะพระเจ้าจะได้ชีวิตที่ครบบริบูรณ์ และรวมถึงพระพรอันมากมาย ทั้งในด้าน ฝ่ายวิญญาณ จิตใจ และร่างกาย พระเจ้าสัญญาว่าจะยกโทษบาปทั้งหมดของเราและจะรักษาโรคทั้งหมดของเราให้หาย เหตุฉะนั้น เราจึงเชื่อว่าสุขภาพของมนุษย์ ไม่จะเป็นความเจ็บป่วยทางจิตใจ อารมณ์ และร่างกาย สามารถรับการรักษาได้โดยฤทธิ์เดชของพระเจ้า พระคัมภีร์สอนเราถึงหนทางในการที่จะเข้าถึงความช่วยเหลือจากเบื้องบนและฤทธิ์เดชแห่งการรักษา และหมายความรวมถึง:การอธิษฐานด้วยความเชื่อ โดยการวางมือ โดยการทรงนำด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ และ/หรือโดยของประทานที่เหนือธรรมชาติจากพระวิญญาณ การรักษาถูกจัดเตรียมไว้ด้วยการไถ่ของพระคริสต์ และเป็นสิทธิพิเศษของสมาชิกคริสตจักรทุกคนในวันนี้ (ยอห์น 10:10 สดุดี 103:3 มาระโก 16:18 ยากอบ 5:14-25 1 เปโตร 2:24 มัทธิว 8:17 อิสยาห์ 53:4-5)

การเติบโตที่แท้จริง - การชำระให้บริสุทธิ์

เราเชื่อว่าคริสเตียนแท้นั้น สามารถพิสูจน์ได้จากผลของชีวิตที่ชอบธรรมซึ่งเป็นการงานของพระวิญญาณเจริญเติบโตอยู่ภายในและสร้างผลผลิตขึ้นในชีวิตของผู้เชื่อ กระบวนการชำระให้บริสุทธิ์นี้นำไปสู่ชีวิตที่เหมือนพระคริสต์อย่างแท้จริง มัความบริสุทธิ์ชอบธรรม เป็นสิ่งที่แน่นอนและชัดเจน เป็นผลแห่งการงานของพระคุณที่เคลื่อนไปข้างหน้า กระบวนการนี้เริ่มต้นขึ้นขณะที่มีการบังเกิดใหม่และดำเนินต่อไปตลอดทั้งชีวิตคริสเตียนของเรา (ฮีบรู 12:14, 1 เธสะโลนิกา 5:23, 2 เปโตร 3:18, 2 โครินธ์ 3:18, ฟิลิปปี 3:12-14, 1 โครินธ์ 1:30)

สิ่งที่กำลังจะมา - การกลับมาขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา

เราเชื่อในการเสด็จกลับมาขององค์พระเยซูคริสต์ เราเชื่อว่าการเสด็จมาของพระองค์ใกล้เข้ามาแล้ว เมื่อพระองค์เสด็จมา คนตายที่เชื่อในพระคริสต์จะเป็นขึ้นก่อน หลังจากนั้นพระเจ้าจะทรงรับพวกเราซึ่งมีชีวิตอยู่ขึ้นไปในเมฆพร้อมกับคนเหล่านั้น (ซึ่งเราเรียกว่าความปีติยินดี) และเราจะได้พบองค์พระผู้เป็นเจ้าในฟ้าอากาศ หลังจากที่ถูกรับขึ้นไปแล้ว เราเชื่อว่าภัยพิบัติต่างๆจะปรากฎขึ้นบนโลกและครอบคลุมเวลาถึง7ปี จากนั้นพระเยซูจะเสด็จกลับมายังโลกในฐานะกษัตริย์เหนือกษัตริย์ พระเจ้าเหนือจอมเจ้านาย ผู้เชื่อจะกลับมาพร้อมกับพระองค์และจะปกครองร่วมกับพระคริสต์บนโลกเป็นเวลาหนึ่งพันปี ในช่วงที่เรียกว่ารัชกาลพันปีของพระคริสต์ (กิจการ 1:11, 1 เธสะโลนิกา 4:16,17, วิวรณ์ 20:6)

ปลายทางสุดท้าย-นรกและการชดใช้บาปชั่วนิรันดร์

เราเชื่อว่าบุคคลใดก็ตามที่ตายโดยไม่สารภาพบาปและยอมรับว่าพระเยซูคริสต์เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะพบกับความสิ้นหวังและสูญเสียชีวิตไปชั่วนิรันดร์ บุคคลเหล่านี้จะตกอยู่ในบึงไฟชั่วนิรันดร ดังนั้นพวกเขาจะไม่มีโอกาสได้ยินข่าวประเสริฐและกลับใจอีก (ฮีบรู 9:27 วิวรณ์ 19:20)